6 อาหารที่ห้ามขาดในหน้าหนาวนี้

6 อาหารที่ห้ามขาดในหน้าหนาวนี้ เริ่มเข้าช่วงหน้าหนาวกันแล้วนะคะ เป็นที่รู้กันดีกว่าประเทศไทยเป็นประเทศเมืองร้อน อากาศจะฤดูไหนก็ยังคงร้อนอย่างบอกใครเลยละคะ แต่ช่วง 25 -26 พฤศจิกายนนี้ก็เริ่มมีลมหนาวๆมาให้ได้สัมผัสกันบ้างแล้วนะคะ แต่ก็คงจะหนาวสู้คนอยู่ทาง ภาคเหนือของไทยไม่ได้หรอกคะจริงไหม ไม่ทราบว่ามีใครชอบอากาศหนาวบ้าง ส่วนตัวแอดมินนั้น ชอบมากเลยละคะ ฮ่าฮ่า แต่อากาศหนาวก็มาพร้อมกับโรคที่หลายๆคนมักจะเป็น คือ ไข้หวัด  ที่ไม่ว่าจะอายุไหน รุ่นไหนมักจะเป็นกันในช่วงนี้ เพราะอากาศเริ่มเปลี่ยน หนาวขึ้น อากาศเย็น ใครที่ภูมิต้านทานต่ำก็จะป่วยง่าย วันนี้เราเลยอยากนำเสนอ 6 อาหารที่ห้ามขาดในหน้าหนาวนี้ มีทั้ง ผัก ผลไม้ และ เครื่องดื่ม บอกเลยว่าหาทานง่ายมากๆคะ เราไม่รอช้ามาดูกันดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง

1.ผักโขม

ผักโขม :: เราอาจจะคุ้นชินกับเมนูทานเล่น อย่าง ผักโขมอบชีส แต่นอกจากผักโขมอบชีสแล้วนั้น เจ้าผักโขมนี้นำไปประกอบอาหารได้หลายอย่างเลยนะคะ เช่น ไก่ยัดไส้ผักโขมอบชีส , ข้าวผัดผักโขมอกไก่ , สปาเก็ตตี้ ผักโขม&เห็ด เป็นต้น หรือจะนำไปทำขนมอย่างอื่นเช่น พายไส้ผักโขมก็ได้นะคะ จริงๆผักโขมก็คล้ายกับผักบ้างเรานี่แหละแล้วแต่เราจะนำไปประกอบอาหาร คุณประโยชน์ของผักโขมก็มีมากมายเลยนะคะ เช่น บำรุงเลือด , บำรุงสายตา , ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ และอิ่นๆอีกมากมาย แต่ที่สำคัญคือช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่ทำให้เจ็บป่วยง่ายคะ

2.หัวหอม 

หัวหอม :: ไม่ว่าจะเป็นหัวหอมเล็ก หรือ หัวหอมใหญ่ก็ดีทั้ง 2 อย่างเลยนะคะ เพราะนี่แหละคะเหมาะกับผู้ป่วยโรคไข้หวัดอย่างดีเลยคะ ประกอบอาหารได้เกือบทุกอย่าง ในหัวหอมยังช่วยให้เราเจริญอาหาร , ยับยั้งการเกิดเซลล์มะเร็ง , ยับยั้งและป้องกันการเกิดโรคหัวใจ , ช่วยลดความดันโลหิต หรือแม้แต่ ลดความอ้วนก็ช่วยได้ แต่ที่สำคัญและขาดไม่ได้เลยคือ รักษาอาการไข้หวัด ลดน้ำมูก คัดจมูกได้ดีคะ

3.แครอท 

แครอท :: ไม่ใช่แค่กระต่ายเท่านั้นนะคะ ที่เหมาะกับการกิรแครอท มนุษย์เราก็เหมาะกับการกินแครอทเป็นอย่างมาก เพราะในแครอทมีคุณประโยชน์มากมาย ยิ่งสำหรับสาวๆยิ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งคะ เพราะในแครอท ช่วยบำรุงผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง , บำรุงกระดูก เล็บ เหงือก และฟันให้แข็งแรง , บำรุงเส้นผม , บำรุงสายตา เป็นต้นคะ และ ในแครอทยังมีวิตามินและแร่ธาตุมากมายเลยนะคะ เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี ธาตุแคลเซียม และ ธาตุเหล็ก เป็นต้นคะ จะนำไปประกอบอาหารอะไรก็ดูดีดูน่ารับประทานทั้งนั้นคะ ด้วญสีสันและคุณประโยชน์แล้ว และ วิตามินซีในแครอทนี่แหละคะ ที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคไข้หวัดได้เป็นอย่างดีคะ

4.ส้ม

ส้ม :: ส้มเป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีมากมายหลายพันธุ์เลยจ้า เช่น ส้มเขียวหวาน , ส้มเช้ง , ส้มจีน เป็นต้นคะ และ ส้มก็เป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมในการถูกเลือกเป็นผลไม้อันดับต้นๆที่ถูกเลือกรับประทานมากที่สุดคะ ประโยชน์ของส้มก็มีมากมายเลยนะคะ เช่น บำรุงสายตา , บำรุงกระดูกให้แข็งแรง , ช่วยต้านอนุมูลอิสระ , ช่วยลดเลือนหรือชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร , ช่วยให้ขับถ่ายง่ายขึ้น และ ที่สำคัญช่วยให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันโรคที่ดี เพราะในส้มมี วิตามินซี วิตามินเอ (เบตาแคโรทีน) วิตามินบี ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก คะ

4.กีวี

กีวี :: ขึ้นชื่อเรื่องผลไม้ลดน้ำหนัก แต่รุ้ไหมคะ ว่าในกีวีนั้นอดุมไปด้วยวิตามินซี และยังมี วิตามินเอ อี เค บี 1 บี 2 บี 3 บี 6 และ บี 9 และยังมี แคลเซียม ธาตุเหล็ก โซเดียม และ สังกะสี เป็นต้นคะ ฝนกีวีมีประโยชน์อื่นๆอีกด้วยนะคะ เช่น ลดอาการเจ็บคอ , แก้ท้องผูกขับถ่ายยาก , ช่วยย่อยอาหาร , เพิ่มระบบการไหลเวียนของเลือดภายในร่างกายให้ดีขึ้น และ ที่สำคัญคือ สร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่ายคะ

5.ฝรั่ง

ฝรั่ง :: เป็นอีกผลไม้ที่มีราคาถูกหาทางง่าย และ นิยมรับประทานกันในบ้านเรานะคะ พัธุ์ที่ได้รับความนิยมในการรับประทานก็จะมี ฝรั่งกิมจู , ฝรั่งแป้นสีทอง และ ฝรั่งไร้เมล็ด เป็นต้นคะ แถม ฝรั่งลูกสีเขียวๆนี้มีวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 5 เท่าเลยนะคะ!! สาวๆคนไหนที่กำลังลดน้ำหนัก ควบคุมน้ำหนัก จึงควรทานฝรั่งเพราะในฝรั่งมีกากาใยอาหาร ทำให้อิ่มนาน ไม่ต้องคอยกินจุกกินจิกตลอดเวลา และนอกจากเรื่องควบคุมน้ำหนักแล้ว ฝรั่งยังมีประโยชน์อื่นๆอีกนะคะ เช่น รักษาโรคเบาหวาน , บำรุงเหงือกและฟัน , ช่วยรักษาโรค เลือดออกตามไรฟัน , รักษาอาการท้องเสีย , รักษาอาการท้องร่วง และที่สำคัญช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกายให้แข็งแรงคะ

6. โกโก้ร้อน 

โกโก้ร้อน :: เป็นเครื่องดื่มที่หลายคนชอบดื่ม ยิ่งเป็นโกโก้ร้อนในช่วงหน้าหนาวยิ่งดีเข้าไปอีกคะ แต่รู้ไหมคะว่า โกโก้ร้อนที่หลายๆคนชอบรับประทานนั้น มีสารฟลาโวนอยด์ ที่ช่วยทำให้ร่างกายของเราแข็งแรง มีภูมิต้านทานที่ดี และ ยังส่งผลช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้นอีกด้วยคะ

ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นก็เป็นเพียงส่วนนึงในการป้องกันโรคไข้หวัดในช่วงหน้าหนาวเท่านั้น เราเองก็ควรจะดูแลตัวเองด้านอื่นๆด้วย เช่น มั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้ครบวันละ 8 แก้ว หลีกเลี่ยงที่ที่มาอากาศหนาว