กว่าจะมาเป็น Luxottica เจ้าของแบรนด์ Ray-Ban, Oakley, Vogue

Luxottica เจ้าของแบรนด์ Ray-Ban, Oakley, Vogue กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ เขาต้องผ่านไรมาบ้าง ….

เมื่อปี 1942 เด็กชายที่มีชื่อว่า Leonardo Del Vecchio วัย 7 ขวบที่ต้องถูกส่งไปยังสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเนื่องจากฐานะที่ยากจน และแม่ของเขาไม่มีเงินพอที่จะเลี้ยงดูเขาคะ (พ่อของเขาได้เสียก่อนเขาจะเกิด5เดือน)  เขาจึงถูกส่งไปอยู่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าคะ และพออายุ 14 ปี เขาก็ตัดสินใจออกมาหางานทำเพื่อเลี้ยงครอบครัวของเขา ซึ่งเขาได้เข้าทำงานในโรงงานผลิตเครื่องจักรแห่งหนึ่งในเมืองมิลาน อิตาลี่ ทำให้เขาได้ค้นพบตัวเองว่า เขาชอบงานฝีมือที่ต้องใช้ความละเอียดละออในการผลิต และเขาก็สามารถทำมันออกมาได้อย่างดี

และถึงแม้ว่าเขาต้องทำงานในโรงงานทั้งวัน แต่เขาก็ยังจะหาเวลาในตอนกลางคืนที่จะไปเรียนเรื่อง Industrial Design ซึ่งทำให้เขาค้นพบว่า เขาหลงใหลไปกับความงามและศาสตร์ในการออกแบบแว่นตา เขาเห็นว่าผู้ผลิตแว่นตาคุณภาพสูงนั้นมีผู้ผลิตน้อยรายมากและแบรนด์ต่างๆยังไม่ให้ความสนใจในการออกแบบแว่นตาเท่าที่ควร

ต่อมาในปี 1961 เขาได้ย้ายไปที่เมือง อากอร์โด ซึ่งเป็นศูนย์กลางของอุตสาหะกรรมแว่นของของประเทศอิตาลี่ ซึ่งเขาได้ประสบความสำเร็จในการเป็นนักออกแบบแว่นตา จนกระทั่งเขาตัดสินใจออกไปเปิดบริษัทเป็นของตัวเองที่มีชื่อว่า “Luxottica” ที่ตั้งเป้าหมายว่าจะผลิตแว่นตาคุณภาพสูงให้กับแบรนด์ต่างๆของอิตาลี่

ในปี 1988 เขาได้มีโอกาสพบกับ Giorgio Armani และได้พูดคุยกับ Armani ซึ่งเขากล่าวว่า “แว่นตาไม่ได้สำคัญต่อการมองเห็นเท่านั้น แต่ยังสำคัญต่อบุคลิกภาพด้วย” ประโยคนี้เองทำให้  Armani เห็นถึงวิสัยทัศน์ของเขา และเป็นเหตุให้ตกลงเซ็นต์สัญญาให้ Luxottica เป็นผู้ผลิตแว่นตาให้กับ Armani

หลังจากนั้น Luxottica ก็ได้เติบโตอย่างรวดเร็วมาก และเขาก็เปิดร้านแว่นตาเป็นของตัวเองที่มีชื่อว่า Sunglass Hut และ LensCrafters ซึ่งมีสาขากว่า 6,000 แห่งทั่วโลก และมีพนักงานกว่า 73,400 คนค่ะ ทั้งยังเป็นเจ้าของแบรนด์แว่นตาอย่าง Ray-Ban, Oakley และ Vogue รวมถึงยังรับจ้างผลิตแว่นตาคุณภาพดีให้กับ Armani, Ralph Lauren, Tiffany, DKNY, Chanel, Versace โดยมียอดขายกว่าปีละ 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3แสนล้านบาท ปัจจุบันนี้เขาเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของอิตาลี่ และอันดับที่ 38 ของโลกคะ

cr. wikipedia, forbes, หนังสือคิดจะไปดวงจันทร์อย่าหยุดแค่ปากซอย