มาต่อกันเลยค่า…กับบทความที่ 2 รีวิว Hearton Shinsaibashi hotel-Shitennoji temple-Santa maria-Ferris wheel-Kaiyukan @Osaka, Japan
Hearton Shinsaibashi hotel : โรงแรมนี้ถือได้ว่าทำเลดีมากกก เนื่องจากอยู่ใกล้สถานี เดินประมาณ 3 นาที ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง (เดินข้ามถนนไปก็ถึงถนนคนเดิน Shinsaibashi) ขนาดห้องอาจจะเล็กไปหน่อย แต่ก็เป็นขนาดปกติของโรงแรมในเมืองของญี่ปุ่น สิ่งอำนวยความสะดวกครบค่ะ มีทีวี ตู้เย็น อ่างอาบน้ำ ไดร์เป่าผม ฯลฯ ถือได้ว่าเป็นการใช้ประโยชน์พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าและลงตัวมากๆค่ะ
การเดินทาง : ลง Subway สถานี Shinsaibashi ออกทางออก 7 แล้ว พอขึ้นมาบนพื้นดินแล้วเลี้ยวซ้าย เดินตรงไปผ่าน Family Mart เจอ สี่แยกแล้วเลี้ยวซ้ายอีกทีก็จะเจอทางเข้าโรงแรมเลยคะ อยู่เยื้องๆกับร้าน Kate Spade แต่ตอนเดินขึ้นจากชานชาลามาแนะนำให้ใช้ลิฟต์แล้วกดชั้น 1 ก็จะขึ้นมาสู่พื้นดินเลยคะ จะได้ไม่ต้องยกกระเป๋าหนักๆขึ้นบันไดมา 3 ชั้นคะ – -* ตอนลงก็เข้าลิฟต์แล้วกดชั้น B2 คะ
Shitennoji temple : เชื่อกันว่าเป็นวัดพุทธแห่งแรกของญีปุ่น ถูกสร้างขึ้นในปี 593 แม้จะถูกไฟไหม้มาหลายครั้ง ก็ได้รับการบูรณะซ่อมแซมมาโดยตลอด จนมีสภาพที่ยังดูดีอย่างทุกวันนี้ค่ะ (แต่วันที่เราไป เจดีย์ปิดซ่อมแซมคะ เลยไม่ได้เห็นเลย T_T)
การเดินทาง : ใช้ Subway ลงสถานี Tanimachi ทางออก 4 ขึ้นมาแล้วจะเจอถนนเล็กๆที่ขนานกับถนนใหญ่ ให้เดินตรงไปเรื่อยๆๆๆ ประมาณ5นาที มองซ้ายมือก็จะเจอวัดใหญ่ๆค่ะ (วัดนี้มีทางเข้า 2 ทางนะคะ ทางแรกจะเป็นทางเดินที่ผ่านสุสาน และอีกทางจะเป็นทางเข้าหลัก ใหญ่ๆเลยคะ)
เวลาเปิด-ปิด : 8.00-16.00 น.
ค่าเข้าชม : ส่วนนอกเข้าชมได้ฟรี แต่ส่วนในต้องเสียค่าเข้า 300เยน (เราใช้บัตร Amazing Pass คะ แค่ยื่นให้เจ้าหน้าที่แสกน QR Code แล้วก็ให้บัตรเข้าชมมาค่ะ)
Cruise Ship Santa maria : อันนี้อยู่ในส่วน Bay Area คะ ในส่วนนี้จะมีที่ท่องเที่ยวหลักๆอยู่ 3 อย่างค่ะ คือ Santa Maria, Ferris Wheel และ Kaiyakan Santa Maria เป็นการล่องเรือโจรสลัดดูบรรยากาศความงามของบริเวณอ่าวโอซาก้า ใช้เวลาล่องประมาณ 45 นาที เรือออกทุกๆ 1 ชั่วโมงค่ะ
การเดินทาง : ใช้ Subway ลงสถานี Osakako ทางออก 1 แล้วเดินมาตามป้ายที่ชี้ไป Kaiyukan หรือเมื่อลงจากสถานีรถไฟฟ้าแล้วจะเห็นชิงช้าสวรรค์ใหญ่ๆ ก็เดินไปตามนั้นเลยค่ะ เดินผ่านชิงช้าสวรรค์ ผ่านที่ซื้อตั๋วKaiyakan แล้วเดินไปตามป้ายชี้ไปทางท่าเรือค่ะ
เวลาเปิด-ปิด : 11.00-16.00 น.
ค่าเข้าชม : 1,600 เยน แต่เนื่องจากเรามีบัตรเบ่งแล้ว ก็เดินไปรอที่ท่าเรือได้เลย จะมีเจ้าหน้าที่มาแสกน QR code ตอนขึ้นเรือ หากไม่มีให้เดินเข้าไปที่ตึกตามลูกศรเพื่อไปซื้อบัตรที่เคาเตอร์ก่อนค่ะ เจ้าหน้าที่พูดอังกฤษได้ค่ะ
Tempozan Giant Ferris Wheel : เป็นชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดอันนึงของโลกเลยค่ะ โดยมีความสูงกว่า 112.5 เมตร พอขึ้นไปสูงสุดแล้วยืนก็มีขาสั่นเหมือนกันค่ะ โดยเค้าจะให้เราเลือกขึ้นได้ว่าเป็นแบบใส หรือแบบธรรมดาค่ะ ตอนแรกเราเลือกแบบใส แต่รอนานมากกกก เพราะมีอยู่ 4 ตู้ เลยต้องเปลี่ยนแถวมาขึ้นแบบธรรมดาค่ะ แต่แนะนำว่าถ้ามาตอนเย็น รออีกหน่อยให้มืดก่อนแล้วค่อยขึ้น วิวตอนกลางคืนน่าจะสวยกว่าค่ะ
การเดินทาง : อยู่ในส่วน Bay Area ใช้ Subway ลงสถานี Osakako ทางออก 1 แล้วเดินมาตามป้ายที่ชี้ไป Kaiyukan หรือเมื่อลงจากสถานีรถไฟฟ้าแล้วจะเห็นชิงช้าสวรรค์ใหญ่ๆ ก็เดินไปตามนั้นเลยค่ะ โดยให้เดินเข้าไปในห้าง Tempozan Market ก่อนแล้วเดินขึ้นไปชั้น 3 เพื่อต่อแถวขึ้นชิงช้าสวรรค์คะ
เวลาเปิด-ปิด : 10.00-22.00 น.
ค่าเข้าชม : 800 เยน แต่เราใช้บัตรเบ่งยื่นให้เจ้าหน้าที่แสกน QR code แล้วขึ้นได้เลยค่า
Kaiyukan : เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีกว่า 620 สายพันธุ์ ใน 14 ตู้โชว์ และมีที่ให้จับฉลามและปลากระเบนด้วยค่ะ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่คะ > http://www.kaiyukan.com/language/eng/)
การเดินทาง : อยู่ในส่วน Bay Area ใช้ Subway ลงสถานี Osakako ทางออก 1 แล้วเดินมาตามป้ายที่ชี้ไป Kaiyukan หรือเมื่อลงจากสถานีรถไฟฟ้าแล้วจะเห็นชิงช้าสวรรค์ใหญ่ๆ ก็เดินไปตามนั้นเลยค่ะ โดยให้เดินเข้าไปในห้าง Tempozan Market ก่อนแล้วเดินขึ้นไปชั้น 3 เพื่อต่อแถวขึ้นชิงช้าสวรรค์คะ
เวลาเปิด-ปิด : 10.00-20.00 น. (เข้าได้ก่อนถึงเวลาปิด 1ชั่วโมง)
ค่าเข้าชม : 2300 Yen ซื้อบัตรได้ที่เคาเตอร์ขายบัตรคะ อันนี้ใช้บัตรเบ่งลดได้ 100 Yen/คน เหลือ 2200 Yen คะ
จบในส่วน Part 2 แล้วค่า ติดตามต่อกันที่ Part 3 ได้เลยจ้า