กินเจยังไง สุขภาพดี ไม่มีอ้วน

กินเจ นอกจากจะช่วยให้อิ่มบุญ อิ่มใจแล้ว สาวๆ รู้ไหมคะว่าการกินเจยังมีผลดีสารพัดอย่างอีกด้วยนะ หากเลือกทานให้เหมาะสมแล้ว ผิวพรรณและรูปร่างของเราจะดูดีขึ้นได้ไม่ยากเลยค่ะ ไหนๆ ก็ตั้งใจกินเจกันแล้ว ลองหาสิ่งเหล่านี้มาทานกันดูเพื่อประโยชน์ต่อร่างกายกันนะคะ….

มะเขือเทศอุดมไปด้วยวิตามินแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินเค วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และยังมีสารสำคัญอย่างไลโคปีน (Lycopene) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกายช่วยลดเลือนริ้วรอยก่อนวัย ตลอดจนช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตในร่างกาย ทำให้ผิวแลดูขาวอมชมพูดูมีเลือดฝาด หากทานสดจะมีวิตามินซีและน้ำที่ช่วยให้ผิวใสและชุ่มชื่น หรือหากทานคู่กับน้ำมันมะกอกแบบปรุงสุก ก็จะได้รับสารไลโคปีนและวิตามินอีที่ช่วยปกป้องพร้อมบำรุงผิวแบบเต็มๆ โดยจากผลการวิจัยพบว่า ผู้ที่ได้รับไลโคปีน จะสามารถฟื้นฟูผิวหลังออกแดดได้เร็วกว่า ดังนั้นจึงมีส่วนช่วยทำให้ผิวของเรากลับมากระจ่างใสได้เร็วขึ้นค่ะ

โดดเด่นที่สารไอโซฟลาโวน เป็นไฟโตนิวเทรียนต์หรือสารอาหารจากพืช ที่ไกล้เคียงกับฟลาโวนอยด์ เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนเป็นไฟโตเอสโทรเจน (เอสโทรเจนจากพืช) ออกฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนเพศหญิง ส่งผลให้ผิวพรรณมีน้ำมีนวลมากยิ่งขึ้น และยังมีโปรตีนสูง ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ หากทานน้ำเต้าหู้แบบน้ำตาลน้อยหรือไม่ใส่น้ำตาล หรือเต้าหู้ต้มและนึ่ง ก็จะช่วยให้ผิวสวยเปล่งปลั่งแบบไม่ต้องกลัวอ้วนค่ะ

พืชตระกูลถั่วถือว่ามีประโยชน์รอบด้านทีเดียวค่ะ เพราะอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก สังกะสี ที่จำเป็นต่อผู้หญิงเรา และที่เวิร์คมากก็คือ ไบโอติน เพราะมันช่วยเสริมสุขภาพเส้นผม เล็บ และผิวพรรณของเราให้แข็งแรงขึ้น ประโยชน์ถึง 3 เด้งเลยทีเดียว ส่วนธัญพืชที่ขอแนะนำก็คือ ลูกเดือย ซึ่งมีโปรตีนมากเช่นกัน ชาวจีนและญี่ปุ่นนิยมรับประทานกันมานานเพราะมีฤทธิ์เป็นยา ที่เน้นๆ สำหรับผู้หญิงก็คือช่วยบำรุงสตรีหลังคลอด ลดอาการตกขาวผิดปกติ ลดความเสี่ยงการเกิดเนื้องอก และยังกระตุ้นการทำงานของเมลาโทนินทำให้หลับสบายและหลับสนิท แบบนี้ผิวสวยจะไปไหนเสีย จริงไหมคะ

แหล่งโปรตีนชั้นเลิศทดแทนเนื้อสัตว์ต้องยกให้ “เห็ด” เป็นนางเอกค่ะ เพราะเห็ดมีกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายต้องการมากมาย มีธาตุเหล็ก และซีลีเนียมซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและจำเป็นต่อผู้หญิง โดยเฉพาะเห็ดฟางนั้นมีวิตามินซีสูง ช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจนและสมานผิวได้เป็นอย่างดี เมื่อผสานกำลังกับโปรตีนแล้ว ก็จะช่วยให้กระบวนการซ่อมแซมผิวทำงานได้ดีขึ้น รอยแผลต่างๆ จึงหายเร็วขึ้น รอยดูจางลง และลดความเสี่ยงของการเกิดแผลเป็นได้ค่ะ

ข้าวโอ๊ตมีเส้นใยชนิดละลายน้ำที่ทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำ เมื่อเข้าสู่กระบวนการย่อยกากใยของข้าวโอ๊ตก็จะก่อตัวเป็นเจล ค่อยๆ ซึบซับคาร์โบไฮเดรตเอาไว้พร้อมช่วยซึมซับน้ำเมื่ออาหารตกผ่านลงไปในท้อง ช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็ว และมีส่วนช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ จึงดีมากต่อคนที่อยากคุมน้ำหนักช่วงกินเจค่ะ

สิ่งสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ การกินเจด้วยจิตใจที่ผ่องใส เมตตา อ่อนโยน แล้วจะพบว่าทั้งผิวพรรณและสุขภาพของเรายิ่งดีวันดีคืน เพราะสุขภาพจิตที่แจ่มใส ย่อมอยู่ในร่างกายที่แข็งแรงเป็นของคู่กันนั่นเองจ้า